ไทยลีกอาจคัมแบ็กก่อนกำหนด หลังบิ๊กสโมสรต่อสายตรงคุยกับนายกส.บอล

          แฟนบอลอาจได้เฮมีโอกาสได้ยลลีลาฟุตบอลลีกไทยคัมแบ็คกลับมาเตะก่อนกำหนดล่าสุดที่วางไว้คือเดือน ก.ย. 2563 หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดล่าสุดของไวรัส โคโรน่า โควิด 19 เริ่มทุเลา

   จากการที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงตามลำดับอันเป็นผลมาจากการมาตรการของภาครัฐที่มีการประกาศพรก.ฉุกเฉิน ,เคอร์ฟิวส์ ระหว่าง เวลา 22.00 – 4.00 น. โดยสโมสรสมาชิก 2 ลีกทั้งไทยลีก 1 , 16 ทีม และ ไทยลีก 2 อีก 18 ทีมรวมเป็น 34 ทีมอาจให้นายกสมาคมลูกหนังไทย “บิ๊กอ็อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง พิจารณาข้อเรียกร้องของบรรดาสโมสรสมาชิกว่าหากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 คลี่คลายอาจให้ขยับกลับมาเตะเร็วขึ้น 1 เดือน คือในเดือน ส.ค. 2563 นั่นเอง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของภาครัฐเป็นสำคัญว่าจะปลดล็อคให้ทุกภาคส่วนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติหรือไม่ เพื่อให้สโมสรจะสามารถได้เงินจากสปอนเซอร์แต่ละทีมมาใช้จ่าย รวมถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดอย่าง ทรู ก็จะได้ให้เงินมาสนับสนุนแต่ละสโมสรด้วยนั่นเอง

   ถือว่ามีความเป็นไปได้ที่ลีกลูกหนังไทยอาจจะคัมแบ็คกลับมาเตะต่อได้ก่อนกำหนดเดิมที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้มีการประกาศไว้ก่อนหน้านี้คือจะกลับมาเล่นในเดือน ก.ย. 2563 หลังได้มีการหารือกับสโมสรสมาชิกทั้ง 2 ลีกไปเมื่อไม่นานมานี้

   ล่าสุดมีรายงานมาจากแหล่งข่าวมาว่า ได้มีคีย์แมนลูกหนังของสโมสรหนึ่งได้ต่อสายหา “บิ๊กอ็อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ฟุตบอลลีกของไทยกลับมาเล่นต่อได้ก่อนกำหนดเดิมที่วางไว้คือเดือน ก.ย. 2563 โดยมีการคาดหมายกันว่าเร็วๆนี้ผู้บริหารระดับสูงที่มีอำนาจตัดสินใจของ 34 ทีมจาก 2 ลีกคือ ไทยลีก 1 จำนวน 16 ทีมและไทยลีก 2 อีก 18 ทีม จะทำหนังสือแสดงความประสงค์ส่งให้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้พิจารณา ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ฟุตบอลลีกของไทยกลับมาเริ่มเตะต่อได้ก่อนเดือน ก.ย. 63 ที่สมาคมฯได้กำหนดไว้โดยอาจจะเตะได้ในเดือน ส.ค. 63

   ซึ่งขณะนี้ทุกทีมเล่นกันไปแล้วทีมละ 4 นัด เท่ากับยังเหลือเกมเฉพาะฟุตบอลลีกอีกทีมละ 26 เกมที่ต้องเล่นในฤดูกาลนี้หากกลับมาเตะในเดือน ส.ค. 63 ใช้เวลาราว 5 เดือน ก็จะสามารถปิดฤดูกาลได้ในเดือน ธ.ค. 63 โดยเตะเดือนละ 5 นัดนั้นหมายถึง เกมสุดสัปดาห์ 4 นัดและเพิ่มนัดกลางสัปดาห์ไปอีก 1 นัดเป็น 5 นัดต่อเดือน ก็จะสามารถจบฤดูกาล 2020 ได้ในเดือน ธ.ค. 63 แน่นอน

   ความต้องการดังกล่าวนี้เพื่อจะให้แต่ละทีมสามารถได้เงินจากสปอนเซอร์แต่ละทีมที่ทำสัญญาไว้กับสปอนเซอร์ตัวเอง ไว้ในกรอบเวลา 1 ปีคือเริ่ม ม.ค. ถึง ธ.ค. 63 สามารถรับเงินจากสปอนเซอร์มาใช้จ่ายได้ตามปกติ นักเตะเองก็ได้ไม่ต้องโดนลดเงินเดือนอีกด้วย

   ไม่รวมถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด อย่าง ทรู เองก็น่าจะพอใจ แม้ว่าการแข่งขันอาจต้องเป็นแบบปิดก็ได้แต่สามารถถ่ายทอดได้ ซึ่งก็จะทำให้ทรู จ่ายเงินสนับสนุนให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลได้และสมาคมฯเองก็จะสามารถนำเงินมาสนับสนุนทีมได้ตามปกตินั่นเอง

   แต่ทั้งนี้ทั้งหมดทั้งมวลต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ด้วยว่าจะเป็นเช่นไร หากระยะเวลาต่อจากนี้ไปภาครัฐ,กระทรวงสาธารณสุข ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสามารถควบคุมการระบาดได้แนวคิดดังกล่าวก็น่าจะเป็นไปได้แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของภาครัฐด้วยว่าจะอนุญาติให้ทุกคนสามารถกลับมาทำกิจกรรมต่างๆได้เหมือนเดิมหรือไม่เป็นตัวแปรสำคัญด้วยนั่นเอง

   โดยแนวคิดดังกล่าวนี้เสียงของสโมสรใหญ่เห็นชอบด้วยเพราะจากวิกฤตที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโควิด 19 นี้ทุกทีมได้รับผลกระทบโดยเฉพาะที่ไม่ใช่ทีมใหญ่ที่ต้องรอเงินจากสปอนเซอร์เป็นหลักมาใช้จ่ายในการขับเคลื่อนสโมสร นั่นเอง หากไม่แล้วหากต้องมีการเตะข้ามปีทีมส่วนใหญ่ย่อมได้รับผลกระทบกับเรื่องของสัญญาที่ทำไว้กับสปอนเซอร์แต่ละทีมแน่นอน แล้วถามว่าแต่ละสโมสร จะสามารถนำเงินจากไหนมาแบกรับภาระค่าใช้จ่ายนั่นเอง